ชวนทุกคนมาทำความเข้าใจกับ“การอบแห้ง (Drying)”คืออะไร เชื่อว่าหลายคนคงจะหาคำตอบกันอยู่ จริง ๆ ความหมายก็แสดงภาพชัดเจนอยู่แล้วว่าลักษณะของอะไรก็ตามที่มีการอบแห้งแล้ว มันก็จะไม่มีความชื้น ไม่มีความเหนียวอะไรเท่าไหร่ เช่นผลไม้อบแห้ง ผักอบแห้ง หรืออะไรอบแห้งก็ตามแต่ ถ้าเอาไปใช้การกับซักผ้าก็คงเป็นขั้นตอนหนึ่งที่จะทำให้ผ้าที่เราซักนั้นแห้งไวพร้อมใส่ได้เลยนั่นเอง ตอนนี้เทคโนโลยีการอบแห้ง (Drying Technology) ก็มีความทันสมัยแล้ว มาดูกันว่าความหมายคืออะไร และมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างสำหรับประเด็นนี้ ซึ่งจะอธิบายความสำคัญเอาไว้ทีละลำดับไปในแต่ละหัวข้อเลย
การอบแห้งมีความหมายว่าอย่างไร
ในส่วนนี้จะอธิบายถึงในตัวความหมายเลยว่าคืออะไร ทำไมถึงว่าเป็นการอบแห้ง (Drying) ซึ่งจะเป็นการเอาน้ำออกไปจากวัตถุ วัสดุ สิ่งต่าง ๆ นั่นเอง ก็คือเอาน้ำออกไป น้ำมันก็จะน้อยลง พอไม่มีน้ำ ความชื้นก็ไม่มีน้อยลงตามกันไปด้วย ก็แห้ง อะไรที่เราจะเอามาอบให้แห้งแบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในสถานะของแข็งมาก่อน โดยน้ำที่ออกไปไม่ต้องระเหยที่จุดเดือดแค่มีอากาศพัดผ่านก็เอาน้ำออกมาได้ ส่วนระดับของการอบแห้งจะเอาแห้งแค่ไหนก็อยู่ที่ตัววัสดุที่เราเอามาอบด้วยนะ อะไรที่เป็นของเหลวในนั้นจะระเหยเป็นไอ ก็จะเป็นอะไรที่มีของเหลวต่ำ แต่ก็มีการอบอีกแบบที่จะมีการเหลวอยู่นะคือเป็นการอบของเหลวข้นกับเหลวใส ซึ่งเราอาจจะข้ามประเด็นนี้ไปก่อน
ในการอบแห้งนั้นปัจจุบันมีเครื่องอบหลากหลายแบรนด์ให้ผู้บริโภคเลือกใช้งานให้ตรงวัตถุประสงค์ ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งของหรือวัตถุที่ต้องการจะอบแห้งนั้นคืออะไร ในการใช้เครื่องอบแห้งมาช่วยนั้นจะอยู่ในขั้นตอนเตรียมการสุดท้ายของผลิตภัณฑ์แล้วก็ได้ เช่น อบเสร็จแล้วก็เตรียมบรรจุแพ็คเพื่อวางจำหน่ายได้เลย สินค้าที่เป็นอะไรที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สำเร็จจะนิยมใช้การอบแห้งกัน ในการกระบวนการนี้จะต้องใส่ใจในการทำอย่างมาก หากมองภาพแบบง่าย ๆ กรณีที่เราทำสินค้าบางตัวเพื่อจำหน่ายเป็นสินค้าอบแห้ง สิ่งที่ต้องรู้ก่อนจะทำจริงคือความแห้งที่เราอยากได้คือแห้งขนาดไหน เพราะบางทีถ้าทำออกมาว่ามันไม่เท่ากันเสียภาพลักษณ์แบรนด์แน่นอน มีหลายอย่างมาก ๆ ที่จะต้องคำนึงถึงในการทำการอบแห้งวัตถุต่าง ๆ เพื่อให้ออกมาตรงที่ต้องการ
การอบแห้งเกี่ยวข้องกับอัตราความชื้นอย่างไร
เกี่ยวข้องกันอย่างมากเลยที่เราจะทำการอบแห้งอะไรความชื้นและของเหลวที่ต้องดึงออกมานั้นมีแค่ไหน แล้วเวลาจะใช้งานเครื่องอบ จะต้องกำหนดให้ถูกว่าจะอบแบบไหน เพื่อให้ผลออกมาได้แห้งตามที่ต้องการจริง ๆ ซึ่งการดูอัตราความชื้นนี้ก็เลยสำคัญที่จะต้องรู้ วัตถุดิบแต่ละอย่างจะมีความชื้น มีปริมาณของเหลว มากน้อยต่างกันออกไป ซึ่งจะต้องมีการคำนวณให้ถูกด้วยเพื่อให้ผลออกมาดีสุด ค่าความชื้นที่จะใช้คำนวณนิยมเป็นแบบไดร์เบสิส (Dry Basis) สูตรนี้จะมีสูตรแห้งเป็นฐานเพราะค่าจะคงที่มากกว่า ถ้าเทียบกับค่าความชื้นแบบ Wet Basis
เพื่อให้มองเห็นภาพการใช้งานเวลาที่จะทำการอบแห้งแล้วใช้ค่าความชื้น ก็จะเป็น ให้ค่า Wet basis = ωw ส่วนค่าความชื้นแบบแห้ง Dry basis = ωd แล้วเราก็จะได้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ค่าเป็นตามนี้
ωw = [kg-น้ำ / kg – วัตถุดิบเปียก]
ωd = [kg – น้ำ / kg – วัตถุดิบแห้ง]
หากจะถามว่าจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่จะต้องเข้าใจสูตรนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจหรือทำอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการอบแห้ง หากคุณไม่กังวลกับความไม่สม่ำเสมอที่ผลออกมาหลังตอนอบก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าหากต้องการความสม่ำเสมอ ความแห้งที่พอดีกันทุกวัตถุดิบ จะทำให้สินค้าตัวนั้นออกมามีคุณภาพตามต้องการได้ ก็จำเป็นมากที่จะต้องเข้าใจและยังมีอีกหลายอย่างมาก ๆ ที่จะต้องหาความรู้เพิ่มเกี่ยวกับการอบแบบนี้
เทคโนโลยีการอบแห้งคืออะไร
การทำให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งแห้งไปโดยธรรมชาตินั้น ส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นการตากแดด ตากลม ซึ่งบางอย่างมันก็ใช้เวลานานและความไม่คงที่ของสภาพอากาศ อุณหภูมิและปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วยก็ทำให้สิ่งที่เราตากมีความแห้งที่ไม่เท่ากัน หากในภาคธุรกิจบางครั้งการตากแบบนั้นก็อาจจะช้าไปสักหน่อย เมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยก็ทำให้ทุ่นแรงไปได้เยอะเลย และยังได้ระดับความแห้งของวัตถุดิบที่เราอบสม่ำเสมอกันอีกด้วย แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมและใช้เครื่องอบแห้งอย่างถูกวิธีด้วยนะ การอบแห้งในหลายธุรกิจเลยเลือกที่จะใช้เครื่องมือที่มีความทันสมัยเข้ามาช่วยนั่นเอง เทคโนโลยีก็หมายความว่าเราเอาความทันสมัย ความเป็นเครื่องมือ สิ่งประดิษฐ์ ต่าง ๆ ออกมาเป็นเครื่องที่ใช้สำหรับการอบแห้งที่คุณภาพโดยเฉพาะ ตอบโจทย์การใช้งาน รวดเร็ว ปลอดภัย และได้มาตรฐาน
การเลือกเครื่องอบแห้งมาใช้งานทำอย่างไร
ในการอบแห้งวัตถุดิบต่าง ๆ นั้น ไม่ใช่ว่าเครื่องเดียวจะทำได้ทุกอย่างเหมาะกับทุกสิ่ง จะต้องเลือกให้เหมาะสมเช่นกัน เราจะต้องดูก่อนว่าปริมาณของการอบของเรานั้นเยอะแค่ไหน เพราะมีผลมากต่อการเลือกขนาดของเครื่อง ยิ่งใหญ่ราคาก็สูงตามไปด้วยนั่นหมายถึงต้นทุนของคุณเพิ่ม ฉะนั้นคำนวณในส่วนนี้ให้ดี ว่าเราต้องใช้เครื่องอบแห้งแบบไหน แล้วรูปแบบในการอบ อบอย่างไร การทำงานของเครื่องนั้น ๆ ตอบโจทย์สินค้าหรือวัตถุดิบที่จะอบหรือไม่ อบแล้วจะได้ระดับความแห้งที่ต้องการไหม เพราะการอบแห้งของแต่ละอย่างก็ไม่เหมือนกันฉะนั้นเลือกให้ดีจะได้ไม่ต้องจมทุนกับการซื้อเครื่องอบแห้งผิดประเภทได้
ประเภทของเครื่องอบมีเยอะมาก ๆ เครื่องอบไมโครเวฟเองก็เป็นหนึ่งในเครื่องที่ใช้ในการอบแห้งเหมือนกัน แต่ก็ไม่ใช่เครื่องที่เหมาะจะอบอะไรปริมาณเยอะ และเท่านั้นยังไม่พอการทำงานของแต่ละแบบนั้น ต่างกันด้วย ถ้าจะให้ดีควรศึกษาข้อมูลในแต่ละประเภทเพิ่มด้วยจะดีมาก ในการอบแห้งบางครั้งจะทำงานเดินเครื่องได้ต่อเนื่องยาว ๆ แต่บางเครื่องทำไม่ได้ ในการใช้กระแสลมร้อนก็ต่างกัน ข้อมูลเหล่านี้อาจสอบถามจากคนขายเครื่องนั้น ๆ ได้เลย เพื่อค้นหาเครื่องที่เหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด
การอบแห้งแบบใช้เครื่องอบดีอย่างไร
- ไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่นจากอากาศ เมื่อเทียบกับการตากให้แห้งเองจากธรรมชาติเราไปวางตากไว้เลยไม่รู้ฝุ่น ควัน หรืออะไรจะลอยมาติดกับวัตถุดิบของเราที่ตากไว้บ้าง โดยเฉพาะใครที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับของกินอะไรที่เน้นความสะอาด เรื่องนี้สำคัญมาก
- ความสะอาด ปลอดภัย ไม่มีแมลงรบกวน ไม่มีแน่นอน มันคงไม่มีแมลงวันบินเข้าไปในเครื่องอบแห้งแน่ ๆ เป็นข้อดีของการอบแห้งเลยที่ทำให้หลายคนเลือกใช้เทคโนโลยีการอบมาช่วย มันดีแบบนี้
- ระยะเวลาในการแห้งของวัตถุดิบเร็วขึ้น เช่น การตากเนื้อสักชิ้น ตากอาหารสด ตากแดดกว่าจะแห้งต้องรอแดดแรง ๆ แต่กับเครื่องอบเราตั้งได้เลย เป็นการอบแห้งที่ง่ายและสะดวก จะเอาแห้งระดับไหนเลือกได้
- ในการอบแห้งแบบใช้เครื่องนั้นจะทำให้กระทบต่อสี ต่อเนื้อ ต่อสภาพของวัตถุดิบน้อยที่สุด แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่การใช้งานเครื่อง การแห้ง ว่ามากน้อยแค่ไหนด้วยนะ แต่ยังไงก็ดีกว่าการตากแห้งแบบธรรมชาติแน่ ๆ
ข้อดียังมีอีกหลายอย่างเลยถามว่าข้อเสียมีไหม ? ก็คงมีอยู่แล้ว มองง่าย ๆ เลย ต้องลงทุนในการซื้อเครื่องอบนะ ราคาต่างกันไปตามประเภทการใช้งาน ตามแบรนด์ ตามขนาด และอื่น ๆ มีการเสียได้จะต้องการมีการซ่อมบำรุง เป็นต้น ก็นับว่าเป็นข้อเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้เหมือนกัน แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ตลอดการอบแห้ง ซึ่งถ้าเทียบกับข้อดีและประโยชน์ที่จะได้กลับมามันคุ้มกว่ากันเยอะเลย
บทสรุป
การอบแห้ง เป็นการทำให้วัตถุดิบแห้ง ไม่มีความชื้นหรือมีแต่น้อยตามความต้องการของเราเอง ส่วนกระบวนการในการทำให้แห้งนั้น ก็อยู่ที่จะเลือกเลยว่าสะดวกแบบไหน เน้นแบบสโลว์ไม่รีบจะตากธรรมชาติ รอแดด รอลมก็ไม่ผิดอะไร แต่ถ้าเน้นทำธุรกิจ เน้นไว เน้นสะอาด ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ขายได้ไม่มีดราม่า การใช้เครื่องอบจะค่อนข้างตอบโจทย์มากกว่านะ ลองพิจารณากันดูสำหรับใครที่กำลังอยากจะทำการอบแห้งอะไรสักอย่าง หาเครื่องมือสักตัวมาช่วยคุณในการทุ่นแรงและเวลาคงจะทำให้มีเวลาในการทำอย่างอื่นได้เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย✪ล้อรถเข็นUSA™
