บ้านเราเป็นเมืองร้อน ขนาดฤดูหนาวยังร้อนเลย การที่บ้านร้อนเป็นอะไรที่ทรมานเหมือนกันหากติดแอร์ยังเปลืองค่าไฟอีกด้วย แต่ถ้ามีอะไรกันความร้อนได้ก็จะประหยัดค่าแอร์ไปได้เยอะ ทำให้บรรยากาศในบ้านไม่ร้อนอบอ้าว แต่ว่าเราจะต้องเลือกใช้ “ฉนวนกันความร้อน” ให้เหมาะสมประกอบกับการติดตั้งที่ถูกวิธีด้วย บทความนี้ชวนมาทำความเข้าใจกับประเภทของฉนวนที่ช่วยกันความร้อน ว่ามีอะไรบ้าง แล้วติดตั้งอย่างไร ติดตั้งส่วนไหนได้บ้าง เพื่อให้บ้านไม่ร้อนและอยู่อาศัยอย่างสบายกาย มาติดตามพร้อมกันเลย
ประเภทของฉนวนกันความร้อนน่าใช้มีอะไรบ้าง
ก่อนจะตัดสินใจเลือกว่าจะติดตั้งฉนวนกันความร้อนมาติดให้บ้าน แนะนำให้มาทำความเข้าใจกับแต่ละประเภทก่อน แน่นอนว่าประโยชน์หลัก ๆ ของสิ่งนี้คือกันความร้อนจากแสงแดด จากยูวี และยังสามารถติดตั้งได้หลายจุดด้วย แต่อาจจะนิยมหลังคาเป็นส่วนมาก เอาล่ะมาดูกันว่าฉนวนกันความร้อนมีอะไรบ้างดังนี้
- ฉนวนกันความร้อนแบบฉนวนใยแก้ว ตัวนี้จะไม่แพงด้วยนะ หาซื้อมาใช้งานได้ง่าย ๆ นำความร้อนต่ำ มีทั้งแบบแผ่น แบบม้วน ติดตั้งได้หลายจุดทั้งเหนือฝ้า ใต้หลังคา ผนังก็ได้ ฉนวนใยแก้วนี้จะเป็นแผ่นค่อนข้างหนา ในนั้นจะมีใยแก้วเส้นเล็ก ๆ ที่ประสานกันอยู่ทำให้มีโพรงอากาศ ตัวนี้เองที่ทำให้กักความร้อนไว้ และตัวนี้ก็นำความร้อนต่ำ ไม่ติดไฟด้วย ข้อดีอีกแบบคือยังสามารถดูดซับเสียงได้ดีด้วย หลายบ้านก็นิยมติดตั้งฉนวนกันความร้อนใยแก้ว ขนาดความหนาจะอยู่ที่ 2 – 6 นิ้ว จะเป็นที่ปิดผิวด้วยอะลูมิเนียมหรือไม่ปิดก็ได้เลือกตามสะดวกเลย แต่อาจจะต้องระวังเมื่อติดใต้หลังคาหรือเพดานช่วงหน้าฝนน้ำอาจรั่วซึมง่าย ฉะนั้นวางแผนการติดตั้งให้ดี
- ฉนวนกันความร้อนพอลิยูรีเทนโฟม ประเภทนี้จะค่อนข้างทนชื้น ทนน้ำได้ดีพอสมควร และนำความร้อนต่ำ แต่ราคาอาจจะสูงกว่าแบบแรกนิดหน่อย ประเภทนี้จะเรียกง่าย ๆ ว่าโฟมเหลือง หรือ โฟมพียู เพราะชื่อเต็มก็ยาวไปหน่อย ตัวนี้ก็เป็นฉนวนกันความร้อนที่กันเสียงได้เหมือนกัน ตอนใช้ก็ฉีดพ่นไปเลยใต้หลังคาหรือจะใช้เป็นแบบแผ่นติดตั้งเอาก็ได้ คุณภาพในปัจจุบันนั้นสามารถทำให้กันไฟลามได้ด้วย นับว่าเยี่ยมมาก ๆ เลย ตอนที่จะซื้อก็เลือกเลยว่าจะใช้แบบที่ผสมกับการกันไฟลามด้วยไหม
- ฉนวนกันความร้อนแบบเซลลูโลส สำหรับแบบนี้ก็เป็นแบบฉีดพ่นใช้งานง่าย จะติดตั้งฉีดพ่นตรงไหนก็ได้ตามสะดวกเลย เช่น ใต้หลังคา เหนือฝ้า และบนผนัง ก็ได้เหมือนกัน ส่วนราคาก็กลาง ๆ ไม่ถูกแต่ก็ไม่ได้แพงอะไร ตัวนี้มีดีตรงที่เก็บอุณหภูมิได้ดี เบา บางคนก็เรียกฉนวนกันความร้อนตัวนี้ฉนวนเยื่อกระดาษ ซึ่งทำมาจากกระดาษผ่านการใช้งานมาแล้ว กันร้อนได้ดี กันเสียงได้ด้วย มีสารลามไฟด้วยเหมือนกัน เสริมมาอีกอย่างคือกันเชื้อราด้วย เหล่า ปลวก หมู แมลงไม่ค่อยชอบ แต่ว่าอย่างหนึ่งที่ต้องรู้คือเวลาเราฉีดพ่นอาจจะได้ความหนาบางไม่เท่ากันเท่าไหร่นะ
- ฉนวนกันความร้อนอะลูมิเนียมฟอยส์ หลายคนคงจะคุ้นเคยกับฉนวนกันความร้อนประเภทนี้อยู่ไม่น้อยเพราะนิยมนำไปใช้กับข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ด้วย เป็นอีกตัวที่กันความร้อนได้ดีมากเหมือนกัน เมื่อเอามาเป็นฉนวนกันความร้อนในบ้านก็จะทำให้ไม่ร้อน มีความทน หนา เหนียม อีกทั้งยังราคาไม่แพงด้วยนะ จะนิยมติดอะลูมิเนียมฟอยส์สำหรับกันร้อนในบ้านตรงหลังคาไปตอนที่กำลังสร้างบ้านเลย ซึ่งหน้าตาก็จะเหมือนฟอยส์ห่ออาหารแบบนั้นเลย ไม่ติดไฟ เบา ราไม่กินแม้จะชื้นก็ตาม กัน UV ได้ดีมาก ๆ หรือถ้าจะให้บ้านไม่ร้อนดีขึ้นเอาตัวนี้ใช้ร่วมกับฉนวนกันความร้อนประเภทอื่นด้วยยิ่งทำให้กันร้อนได้เยี่ยม
- ฉนวนกันความร้อนแบบพอลิเอทิลีนโฟม เป็นชื่อที่อาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไหร่นักแต่ถ้าหากเรียกชื่อที่นิยมเรียกกันอาจจะคุ้นขึ้นมาบ้างตัวพอลิเอทิลีนโฟมนี้มักจะเรียกกันว่า โฟมพีอี นั่นเอง เป็นฉนวนที่ราคาถูก เบา และ เหนียวด้วย ตัวโฟม PE นี้จะมีความหนาและนุ่ม พร้อมหุ้นด้วยอะลูมิเนียมฟอยส์ พอใช้ฉนวนกันความร้อนแบบนี้จะสะท้อนความร้อนได้ดี ส่วนจะเลือกโฟม PE แบบไหนก็ตามสะดวกเลย อยากได้บาง หนา เลือกเองได้ มีทั้งแบบเป็นแผ่นและม้วน จะนิยมเอาไปติดที่เพดาน หรือบริเวณใต้หลังคาบ้าน หากจะให้มีประสิทธิภาพหน่อยแนะนำเอาแบบที่มีสารกันไฟลามด้วยยิ่งดี
- ฉนวนกันความร้อนแบบใช้สีสะท้อนความร้อน หรือ Ceramic Coating สำหรับแบบนี้จะเป็นแผ่นฟิล์ม ซึ่งจะมีทั้งอะคริลิกเซรามิกรวมกันอยู่ผสมเข้ากับส่วนผสมอย่างอื่นด้วย ซึ่งสีแบบนี้จะสะท้อนความร้อนได้ อีกทั้งยังสามารถเกาะผิดได้ดี ดูดความร้อนต่ำ เอาไปพ่นภายนอกบ้านหรืออาคารได้เลย จะพ่นไปบนหลังคา ดาดฟ้า ก็ได้ ตามสะดวกเลย เป็นสีที่เหมาะแก่การทาภายนอกที่จะมีความร้อนมากระทบ และยังเอาไปใช้กับวัสดุในการก่อสร้างอย่างอื่นก็ได้ อย่างกระเบื้องมุงหลังคาที่โดนแดดโดยตรงทุกวันบางยี่ห้อก็มีการผสมสีสะท้อนความร้อนด้วย ยิ่งทำให้กระเบื้องนั้น ๆ มีประสิทธิภาพ
- ฉนวนกันความร้อนแบบใยหิน หรือ Rockwool อาจจะราคาแรงนิด ๆ แต่ก็คุ้มกับเงินที่จ่ายแน่นอน ตัวนี้จะเป็นการเอาหินภูเขาไฟมาหลอมแล้วทำให้กลายเป็นเส้นใย ก็คือเป็นเส้นใยที่มาจากหินเลยได้ชื่อว่าฉนวนกันความร้อนใยหินนั่นเอง ตัวนี้ไม่ใช่แค่กันร้อนแต่ยังดูดซับเสียงได้ดีอีกด้วย มีความทน ใช้งานได้นาน จะเอามาติดเป็นผนังกันเสียงก็เยี่ยมมาก ติดเพดานก็ดี แต่ว่าจะเป็นฉนวนที่ไม่เข้ากับพื้นที่ชื้นง่าย เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายผุพังได้
- ฉนวนกันความร้อนแบบพอลิสไตรีนโฟม ตัวนี้ก็มีชื่อย่อที่ช่างต่างรู้จักกันดีคือ โฟม PS หรือ โฟม EPS หรือ โฟมขาว จะเรียกแบบไหนก็หมายถึงตัวพอลิสไตรีนโฟมตัวนี้แน่นอน ซึ่งเป็นฉนวนกันความร้อนอีกตัวที่นิยมใช้กัน กันได้ร้อน เย็น มีความเบา ยืดหยุ่นดี ทนแรงกดทับได้ ติดตั้งบนเพดานฝ้าได้ หรือติดบนหลังคาก็ได้ตามแต่สะดวก เวลาหาซื้อเราจะเห็นว่ามีขายเป็นแบบแผ่นเปล่า ๆ ของโฟม บางทีก็ขายยกมาพร้อมตัวฝ้าเพดานด้วน สะดวกแบบไหนก็เอาแบบนั้นนะ และถ้าจะให้ดีเลือกตัวที่มีสารกันลามไฟไปด้วย
- ฉนวนกันความร้อนแบบแอร์บับเบิล หรือ บับเบิลฟอยส์ ตามที่นิยมเรียกกัน สำหรับประเภทนี้จะเป็นเหมือนพลาสติกกันกระแทกที่เรามักเห็นกันเวลาสั่งพัสดุ จะมาเป็นม้วน ๆ แบบนั้นเลย ตัวแผ่นฟอยส์จะประกบกันแล้วจะมีมวลอากาศอยู่ในนั้น ตัวนี้ก็เป็นฉนวนกันความร้อนที่สะท้อนความร้อนได้ดี เอาไปใช้ติดตั้งได้ทั้งฝ้า เพดาน หลังคา ใต้จันทัน ก็ได้ เพื่อให้ใช้สิ่งที่ดีสำหรับบ้านอย่าลืมเลือกแบบที่มีสารกันลามไฟด้วยเสมอ
มาถึงตรงนี้ก็คงจะพอมองภาพออกแล้วว่าฉนวนกันความร้อนสำหรับใช้ในบ้าน ทำให้บ้านเย็นขึ้น ฉนวนสะท้อนความร้อนออกไปได้ ที่เหลือก็อยู่ที่คุณว่าจะเลือกแบบไหน ประเภทไหนมาใช้งานในบ้าน ตามงบประมาณที่คุณจ่ายไหวและติดตั้งสะดวก
สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อฉนวนกันความร้อนให้บ้าน
อย่างที่กล่าวไปว่าฉนวนกันความร้อนนั้นมีหลายแบบมาก ๆ มีทั้งแบบหน่วงความร้อนและสะท้อนความร้อน ถ้าจะให้ดีขึ้นมาก็ควรเอาทั้งคู่มาใช้ร่วมกันเลย กันทำให้บ้านเย็นมากขึ้น เวลาจะเลือกฉนวนเราจะต้องดูหลาย ๆ อย่างประกอบกัน ดังนี้
- ราคา เชื่อว่าหลายคนคงเลือกเพราะราคาเป็นอันดับแรกเลย มันคือปัจจัยหลักที่อาจจะควบคุมได้ โดยเฉพาะใครที่ไม่อยากให้สร้างบ้านแล้วเกินงบ ก่อนตัดสินใจให้เปรียบเทียบราคาของแต่ละแบบ ประกอบกับเทียบคุณภาพไปด้วย หากตัวไหนคุณภาพดีในราคาเท่า ๆ กัน ก็ยิ่งดี หรือเจอของดีแต่ราคาแพงขึ้นมานิดเดียว มันก็อาจจะคุ้มที่จะจ่ายเพิ่มอีกหน่อย เพื่อให้ได้ฉนวนกันความร้อนที่มีประสิทธิภาพก็ได้ ลองเทียบราคาดูแล้วจะเห็นว่าตัวไหนเหมาะสำหรับงบของคุณ
- จุดที่ต้องการติดตั้งฉนวนกันความร้อน พอเรารู้ว่าบ้านที่เราอยากจะติดนั้น มีจุดไหนบ้างที่เราต้องการติดตั้งฉนวน พอรู้จุดก็ทำให้เลือกประเภทของฉนวนได้ง่ายขึ้น เช่น ถ้าอยากจะกันความร้อนผนัง มีแบบไหนที่เป็นฉนวนกันความร้อนใช้กับผนังได้ ถ้าจะติดบนหลังคา บนเพดาน มีแบบไหนบ้าง เพราะแบบนี้เราเลยต้องรู้จุดก่อนการเลือกซื้อ
- ต้านทานความร้อนได้ดีแค่ไหน เป็นอีกเรื่องสำคัญที่จะต้องคำนึงเลย เพราะไม่ว่าใครก็ย่อมอยากได้ฉนวนกันความร้อนที่สามารถต้านความร้อนได้ดีจริง ๆ ซึ่งฉนวนแต่ละแบบก็จะต้านทานได้ต่างกันไป ซึ่งเราจะรู้ได้จากการดูค่า R หรือ Resistivity จะมีระบุเอาไว้ชัดเจน หน่วยจะเป็น m2K/W หรือ F/Btu เป็นต้น ถ้าอยากได้ตัวที่ต้านได้ดีก็ให้เลือกที่ค่า R สูง ๆ เข้าไว้
ข้อคำนึง
นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นอาจจะมีปัจจัยอื่นร่วมด้วยในการตัดสินใจเลือกฉนวนกันความร้อนมาใช้กับบ้าน เพราะว่าบ้านนั้นเราสร้างทั้งทีก็อยากได้บ้านอยู่แล้วสบายไม่ร้อน หลัก ๆ ก็ให้ดูตาม 3 ข้อที่กล่าวมาได้เลยก็ทำให้เลือกฉนวนที่มีประสิทธิภาพและอยู่ในงบที่คุณต้องการได้แล้ว
บทสรุป
หากสร้างบ้านแล้วไม่มีการติดตั้งฉนวนกันความร้อนเลยสักจุด โดยเฉพาะมุมที่โดดแดด โดนยูวีโดยตรงคงทำให้บ้านร้อนจนอยู่ไม่ได้เป็นแน่ ลงทุนกับสิ่งนี้ยังไงก็คุ้มค่าแน่นอนน หลายคนเลือกที่จะตัดออกไปเพราะมองว่าไม่จำเป็นแต่จริง ๆ แล้วเป็นอะไรที่ขาดแทบไม่ได้เลย อย่างน้อยหน้าร้อนที่ร้อนจัด ๆ อย่างเมืองไทยเราการอยู่บ้านก็ทำให้ไม่ต้องเปลืองค่าแอร์มากนัก หากติดฉนวนกันความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสำหรับใครที่กำลังมองหาฉนวนดี ๆ อยู่เลือกได้เลย มีหลายประเภทตามที่แนะนำข้างต้น จะต้องมีสักอย่างที่เข้ากับบ้านของคุณอย่างแน่นอน✪ล้อรถเข็นUSA™