สำหรับอุตสาหกรรมรถเข็นหรืออุตสาหกรรมที่ใช้รถเข็นจะต้องเลือกอย่างดีมีความละเอียดถี่ถ้วนเพื่อจะได้รถเข็นประสิทธิภาพดี ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้ใช้งานรถเข็นนั้นนอกจากรูปลักษณ์ตัวรถที่ต้องดูคือจะต้องเลือกล้อรถเข็นที่มีคุณภาพด้วย หากนำไปใช้ในสถานที่ไม่เหมาะสมก็ทำให้ไม่คุ้มค่าที่ซื้อมาก็ได้ บทความนี้ชวนทุกคนมาเรียนรู้เข้าใจว่ารถเข็นมีล้อแบบไหน ชนิดใดบ้าง แล้ววัสดุยางล้อที่มีเป็นแบบไหน ล้อแต่ละชนิดเหมาะแก่การใช้งานในสถานที่แบบไหนบ้างมาติดตามพร้อมกันได้เลย
ล้อรถเข็นคืออะไร ทำหน้าที่แบบไหน
ตรงตัวตามชื่อเลยเป็นล้อสำหรับรถเข็น หน้าที่คือเป็นล้อที่จะพาให้รถเข็นเคลื่อนที่ได้ แต่ว่าล้อรถเข็นไม่ได้ใส่แค่รถเข็นเพียงอย่างเดียว ยังนำไปใส่สิ่งอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น ใส่เก้าอี้ก็ทำให้เก้าอี้นั้นเลื่อนได้ ใส่โต๊ะก็ทำให้โต๊ะเคลื่อนย้ายที่สะดวก นำไปใส่ชั้นวางของ เฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ได้อีกมากมายเลย การเอาล้อมาใส่จะสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น หากไม่มีล้อก็คงจะต้องใช้แรงยกซึ่งยากลำบากเอามาก ๆ แต่พอมีรถเข็นที่มีล้อพาเคลื่อนที่ได้เพียงการเข็นเท่านั้น ก็ไม่ต้องเปลืองแรงยกแถมยังช่วยประหยัดเวลาได้อีกด้วย
พอเข้าใจกันแล้วว่าล้อรถเข็นคืออะไร ต่อไปมาว่าถึงล้อยางแต่ละชนิดกันบ้าง เพราะว่ามันคือสิ่งที่จะต้องพิจารณาก่อนเลือกใช้เลือกซื้อ เนื่องจากล้อแต่ละอย่างไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานที่เหมือนกัน บางชนิดทนร้อนเย็นได้ดี บางรุ่นก็ทนไม่ได้ บางล้อก็ทนการกัดกร่อนได้ดี บางล้อก็พังง่าย โดนกัดกร่อนเอาง่าย ๆ เลย การรับน้ำหนักก็เช่นกันไม่ใช่ทุกล้อรถเข็นจะบรรทุกหนักได้สบาย มาดูกันหน่อยว่าหลัก ๆ แล้วนิยมใช้งานล้อแบบไหนกันบ้าง เพื่อจะได้มีรถเข็นใช้งานได้อย่างตรงใจ
3 วัสดุล้อรถเข็นที่นิยมใช้งาน บรรทุกหนัก ทน แข็งแรง เสียงเงียบ ทนการกัดกร่อนได้
มาพูดถึงล้อรถเข็นที่ได้รับความนิยมในการใช้งานในหลายอุตสาหกรรมซึ่งจะกล่าวถึง 3 วัสดุนี้คือล้อยาง ล้อไนล่อน และ ล้อยูรีเทน นั่นเอง ความเหมือนกันคือเป็นล้อที่มีความแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ดี เสียงค่อนข้างเงียบเวลาที่ใช้งาน มาดูกันหน่อยว่าแต่ละล้อเป็นแบบไหนบ้างดังนี้
- วัสดุล้อยาง ซึ่งจะมาจากธรรมชาติเลยความยืดหยุ่นมีสูงกว่าล้ออื่น ๆ มาก เสียงเงียบเวลาใช้งาน นิ่ม ถนอมพื้น ไม่ทำให้เกิดรอย ทนต่อน้ำอีกด้วย แต่ว่าจะรับน้ำหนักได้ไม่มากเท่าไหร่เมื่อเทียบกับล้อรถเข็นแบบอื่น แต่ปัจจุบันก็มีล้อยางสังเคราะห์ที่แข็งแรงขึ้นกว่าเดิมแล้ว
ซึ่งจะเรียกว่าล้อยางสังเคราะห์ (TPR) ซึ่งก็มาจากยางเทอร์โมพลาสติก เป็นทั้งพลาสติกและยางไปพร้อมกัน ทนต่อแรงกระแทก เสียงเงียบ นิ่มตอนเข็น ทน ไม่ยุบง่าย ไม่สึกง่าย อายุการใช้งานนาน รีไซเคิลได้ดี กับอีกแบบคือล้อยางอีลาสติก ER VA แข็งแรงเหมือนกัน รับน้ำหนักได้ดีระดับหนึ่ง ทนทั้งน้ำและสารเคมี เสียงเงียบ เหมาะแก่การขนย้ายอะไรที่เปราะบางแตกง่าย ไม่หนัก เช่น ผัก แก้ว เซรามิก เครื่องจักรเบา ๆ เป็นต้น
- ล้อไนล่อน เป็นล้อรถเข็นที่ขึ้นชื่อว่าทนถึกแบบสุด ๆ อีกชนิดเลย เรียกว่าถึกแบบไม่กลัวน้ำ กลัวร้อนอะไรเลย ในอุตสาหกรรมที่มีการใช้สารเคมีเยอะมาก ๆ การกัดกร่อนสูง ล้อไนล่อนจะถูกเลือกไปทำหน้าที่ตรงนั้น เพราะว่ามีความแข็ง ทน ไม่แตก ไม่เปราะง่าย รับน้ำหนักได้ดีสุด ๆ ไม่มีรอยบนพื้นใด ๆ แต่จะมีเสียงบ้างตอนที่เข็นใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสภาพผิวพื้นแบบไหนขรุขระมากเพียงใดเจ้าล้อไนล่อนก็เข็นผ่านไปได้สบายมาก จะร้อนจัด เย็นสุดขั้วก็ยังไหว เครื่องจักรหลายชนิดในโรงงานใหญ่ ๆ เลยนิยมติดตั้งเป็นล้อไนล่อนนั่นเอง
- ล้อยูรีเทน เราจะพบเห็นล้อรถเข็นแบบที่เป็นยูรีเทนได้ที่ไหน คำตอบคือส่วนมากตามเฟอร์นิเจอร์ในอาคาร ของใช้ในบ้านเราเอง เช่น เก้าอี้เลื่อนมีล้อ โต๊ะ ชั้นวางของในบ้าน รถเข็น เป็นต้น เพราะว่าไม่ต้องใช้งานหนัก ๆ หรือทนสารเคมีเยอะ ๆ อย่างล้อไนล่อน ยูรีเทนจะเป็นล้อที่มีความแข็ง เหนียม ทน ไม่ฉีด ไม่แตก ทนแรงเสียดทานได้ดี ใช้งานได้ทุกสภาพผิวเลย ซึ่งยังมีประเภทแยกย่อยออกมาอีกคือ
- ล้อรถเข็นยูรีเทน PUb ที่จะเป็นล้อสีดำ ทำจากยูรีเทนมีความยืดหยุ่น รับน้ำหนักได้ดีมาก ๆ ทนต่อสารเคมีได้รับดับหนึ่ง ทนต่อน้ำมันด้วย เสียงเงียบตอนที่ใช้งาน อายุการใช้งานก็ยาวเช่นกัน
- ล้อรถเข็นยูรีเทน PUo ตัวนี้จะราคาสูงกว่าแบบ Pub มีความแข็ง ทน ยืดหยุ่นเหมือนกันทนแรงกระแทกได้ ไม่สึกง่าย รับน้ำหนักได้เยี่ยม ไม่ทำให้พื้นมีรอย เสียงเงียบ คุณภาพจะดีกว่าแบบแรก แต่ว่าก็ยังไม่ได้แข็งถึกมากขนาดตัวล้อแบบ PUt ระดับราคาจะกลาง ๆ ไม่ถึงกับถูกแต่ก็ไม่ได้แพงมากมายอะไร
- ล้อรถเข็นยูรีเทนแกนเหล็ก PUt ที่แปลกมาสำหรับล้อรถเข็นตัวนี้คือจะมีเหล็กเพิ่มมาตรงแกนกลางทำความแข็งแรงยิ่งขึ้นกว่าสองแบบแรก รับน้ำหนักได้ดีมากกว่าเยอะ จุได้เป็น 100 กิโลกรัมเลย ทนต่อทุกอย่าง ทั้งการกัดกร่อนจากสารเคมี ความร้อน ความเย็น แรงกระแทก ไม่ทำให้เกิดรอย ไม่มีเสียงดังตอนใช้งาน หากอยู่ในอุตสาหกรรมที่ต้องขนอะไรหนัก ๆ ล้อแบบนี้จะเหมาะแก่การใช้งาน
สังเกตว่าล้อรถเข็นแต่ละแบบนั้นมีความทนในระดับที่แตกต่างกันไป สิ่งที่ควรคำนึงถึงเวลาที่จะเลือกนำไปใช้งานคือ คุณเอาไปใช้งานอะไร ที่ไหน อย่างไร เช่น อยู่ในโรงพยาบาลต้องการความเงียบแต่ไม่ได้บรรทุกหนักอะไรมาก ก็เหมาะกับล้อยาง เข็นง่ายใช้ดีเสียงเงียบแต่ถ้าต้องเข็นอยู่ในที่สารเคมีเยอะ อุณหภูมิร้อนจัดเย็นจัดไนล่อนจะคือคำตอบแต่ถ้าเน้นเอามาใช้งานในอาคาร ใส่เฟอร์นิเจอร์ก็เลือกเป็นล้อรถเข็นแบบยูรีเทนจะตรงจุดที่สุด
รถเข็นที่มีรับน้ำหนักได้แค่ไหนคำนวณได้จะได้เลือกล้อรถเข็นที่ใช่
มองด้วยตามันอาจยากว่าจะรับน้ำหนักได้เท่าไหร่สำหรับรถเข็นแต่ละแบบ ล้อแต่ละชนิด ฉะนั้นชวนมาใช้สูตรการคำนวณหาว่ามันจะรับได้เท่าไหร่ ซึ่งสูตรตามนี้เลย
“ T = [(E+Z) / n ] x s ”
การแทนค่าสูตร
T หมายถึง น้ำหนักที่ล้อรถเข็นสามารถรับได้
E หมายถึง น้ำหนักรถเข็น ตัวรถ
Z หมายถึง น้ำหนักของสิ่งที่จะบรรทุกโดยรวมสูงสุดเท่าไหร่
n หมายถึง จำนวนของล้อรถเข็น
S หมายถึง น้ำหนักการบรรทุกที่ปลอดภัยเวลาที่จะใช้งาน 75% ของน้ำหนักสูงสุด (Safety Factor)
สำหรับใครที่กำลังกังวลว่ารถเข็นของตนนั้นจะสามารถรับน้ำหนักได้มากสุดแค่ไหน ลองคำนวณหาตามสูตรข้างต้นได้เลย จะทำให้ได้น้ำหนักที่เหมาะสม แม้จะเป็นรถเข็นแต่การบรรจุเกิดขนาดก็ไม่ปลอดภัยเหมือนกัน เสี่ยงที่จะเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ไม่แพ้การบรรทุกของรถเลย ปลอดภัยเอาไว้ก่อนจะดีกว่า ใช้งานทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ที่พอดีแล้วงานจะเดินหน้าอย่างราบรื่นต่อไป
บทสรุป
รถเข็นคุณภาพดี ตอบโจทย์การใช้งานนั้นจะต้องเป็นตัวรถที่มีคุณภาพประกอบกับล้อรถเข็นที่มีคุณภาพเหมาะแก่สภาพแวดล้อมที่นำไปใช้งานด้วย ไม่ว่าจะเป็นล้อยาง ล้อไนล่อน ล้อยูรีเทน ล้อเหล็ก ก็ตาม หากคุณเลือกนำไปใช้ได้ถูกที่มันจะคุ้มค่าแก่ราคาที่ซื้อไปอย่างแน่นอน ก่อนตัดสินใจใช้เวลาในการหาข้อมูลเพิ่มเติม เลือกให้คุ้มค่าที่สุดว่าล้อแบบไหนที่เหมาะกับงานของคุณจริง ๆ นอกจากล้อที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ชนิดของล้อรถเข็นยังมีอีกหลายแบบ ยังมีอีกหลายปัจจัยให้พิจารณา อย่าด่วนซื้อเร็วเกินไป จบบทความนี้ก็หวังว่าคงช่วยให้เข้าใจเกี่ยวกับตัวล้อรถเข็นได้มากขึ้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านที่แวะเข้ามาหาข้อมูล ✪ล้อรถเข็นUSA™
